PROSPECT REIT ยื่น ก.ล.ต. นับ 1 Filing ปลายปีนี้ ตั้งเป้า 3 ปี มูลค่าสินทรัพย์แตะ 10,000 ล้านบาท
03 พฤศจิกายน 2565ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและปัจจัยรอบด้าน Industrial REIT หรือ กองรีทอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม กลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนอีกครั้ง หลังจากช่วงโควิดที่ผ่านมา REIT ประเภทนี้ได้รับผลกระทบน้อยหรือแทบจะไม่ได้รับผลกระทบเมื่อเทียบกับ REIT ประเภทอื่น ๆ เพราะมีการลงทุนในทรัพย์สินอย่างคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า ที่ได้รับแรงหนุนจากกระแสการเข้ามาลงทุนของต่างชาติในธุรกิจ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV car) รวมถึงธุรกิจ E-Commerce ธุรกิจอาหาร และอีกหลายอุตสาหกรรมที่เติบโตสวนกระแส ซึ่ง REIT จะมีรายได้จากค่าเช่า และกำไรที่ได้จะถูกจ่ายออกเป็นเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอให้กับผู้ถือหน่วย
PROSPECT REIT โชว์อัตราการเช่า 94.5% ในไตรมาส 2 ครึ่งปีแรกจ่ายผลตอบแทนรวม 0.456 บาทต่อหน่วย
ล่าสุด ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ PROSPECT REIT โชว์ผลประกอบการแข็งแกร่ง ใน 2 ไตรมาสแรกของปี 2565 จ่ายเงินออกให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์สูงถึง 0.456 บาทต่อหน่วย คิดเป็นประมาณกว่า 9% (Annualized Yield)
ปัจจัยหลักสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตมาจากอัตราการเช่าทรัพย์สิน (Occupancy Rate) ของโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน (Bangkok Free Trade Zone: BFTZ) ยังอยู่ในระดับที่สูงต่อเนื่อง โดยไตรมาส 2/2565 อัตราการเช่าอยู่ที่ 94.5% พร้อมผู้เช่ารายเดิมต่อสัญญา 100% ปัจจุบันผู้เช่าในโครงการมีทั้งผู้เช่าที่ประกอบธุรกิจกระดาษ ธุรกิจรีไซเคิล ธุรกิจในอุตสาหกรรมพลาสติก ธุรกิจแปรรูปอาหาร การให้บริการด้านโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นอีกกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงจากผู้เช่าในหลากหลายอุตสาหกรรม
และจุดเด่นสำคัญของ PROSPECT REIT คือ ทำเลที่ตั้งของทรัพย์สินโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน (Bangkok Free Trade Zone: BFTZ) ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 23 ทำเลศักยภาพสูง ใกล้เส้นทางคมนาคมสำคัญทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ถือเป็นพื้นที่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของไทย อีกทั้งยังมีอาคารคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า ทั้งแบบ Ready Built และ Built-to-Suit รองรับความต้องการการใช้งานอย่างครอบคลุม บนพื้นที่เขตประกอบการทั่วไป (General Zone) และ เขตปลอดอากร (Free Zone) และด้วยความโดดเด่นด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีของพื้นที่เขตปลอดอาการ (Free Zone) คาดว่า จะช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ให้ทยอยเข้ามาตั้งฐานการผลิตเพิ่มขึ้นในอนาคต
ลุยลงทุนเพิ่มเติม ตั้งเป้าดันสินทรัพย์แตะ 10,000 ล้านบาทใน 3 ปี
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา PROSPECT REIT เดินหน้าต่อยอดความแข็งแกร่ง เข้าลงทุนในกรรมสิทธิ์ (Freehold) ซื้อทรัพย์คุณภาพสูงนอกกลุ่ม โครงการ X44 Bangna KM.18 อาคารโรงงานแบบ Built-to-Suit คิดเป็นพื้นที่เช่ารวมกว่า 3,087 ตร.ม. มีผู้เช่าเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจสีรถยนต์ มีศักยภาพเติบโตไปกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV car) ด้วยสัญญาเช่าระยะยาว 9 ปี เพื่อเสริมความมั่นคงระยะยาว และตอกย้ำนโยบายการลงทุนอิสระของผู้จัดการกองทรัสต์ ที่มุ่งสร้างการเติบโตผ่านการเข้าลงทุนอย่างเป็นอิสระในทรัพย์สินคุณภาพสูงจากทั้ง บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (Sponsor) และจากผู้พัฒนาโครงการรายอื่น
ก้าวต่อไป ลุยลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 2 วางแผนลงทุนภายในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 และ โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 ซึ่งเป็นอาคารโฉมใหม่ ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ บางพลี-บางนา รองรับลูกค้ากลุ่มโลจิสติกส์และโรงงานขนาดใหญ่ พื้นที่เช่าอาคารรวม 2 โครงการ 70,129 ตร.ม. มูลค่าเข้าลงทุนไม่เกิน 1,800 ล้านบาท โดยออกหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน 180,000,000 หน่วย ซึ่งได้ทำการยื่น Filing กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปเมื่อเดือน กรกฎาคม และอยู่ในระหว่าง สำนักงาน ก.ล.ต. นับ 1 Filing ภายในสิ้นปีนี้
ภายหลังการเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 2 PROSPECT REIT จะมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการกว่า 292,332 ตร.ม. และด้วยมูลค่าสินทรัพย์รวมทั้งสิ้นกว่า 5,400 ล้านบาท นอกจากนี้ ทาง PROSPECT REIT ได้วางแผนขยายมูลค่าสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์เป็น 10,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี ปัจจุบันก็มีการศึกษาความเป็นไปได้ของการเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมและตั้งเป้าให้มีสัดส่วนการลงทุนแบบ Freehold มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของ PROSPECT REIT ในระยะยาว
Source : ประชาชาติธุรกิจ
https://www.prachachat.net/advertorial/news-1105428